วิธีเรียกใช้งานที่กำหนดเวลาไว้ในเบื้องหลังหรือในเบื้องหน้า

บน Windows บางครั้งมีความจำเป็นต้องเริ่มแอปพลิเคชันเฉพาะหรือเรียกใช้แบตช์ไฟล์ในพื้นหลังหรือเบื้องหน้า โดยใช้ตัวกำหนดเวลางาน บทช่วยสอนนี้มีคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีตั้งค่างานที่กำหนดเวลาไว้ของ Windows ให้ทำงานในเบื้องหลัง (ซ่อนไว้) หรือในเบื้องหน้า (มองเห็นได้)

วิธีตั้งค่างานที่กำหนดเวลาไว้ให้ทำงานในเบื้องหลัง

วิธีการทำงานตามกำหนดการ (ซ่อนหรือมองเห็นได้) สามารถกำหนดได้ในแท็บ 'ทั่วไป' ของคุณสมบัติของงานที่กำหนดเวลาไว้

1. ตามค่าเริ่มต้น เมื่อคุณสร้างงานตามกำหนดเวลาใหม่ งานจะถูกตั้งค่าเป็น เรียกใช้เมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบเท่านั้น อันเป็นผลมาจากการตั้งค่านั้น งานที่กำหนดเวลาไว้จะทำงานในเบื้องหน้า

วิธีเรียกใช้งานที่กำหนดเวลาไว้ในเบื้องหลังหรือในเบื้องหน้า

2. หากคุณต้องการเรียกใช้งานที่กำหนดเวลาไว้ในพื้นหลัง (ซ่อน) ให้เลือก เรียกใช้ไม่ว่าผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบหรือไม่ ตัวเลือกและคลิก ตกลง.

เรียกใช้งานที่กำหนดเวลาไว้ในพื้นหลัง

3. จากนั้นพิมพ์รหัสผ่านบัญชีแล้วคลิก ตกลง.

เรียกใช้งานที่กำหนดเวลาไว้ที่ซ่อนอยู่

4. คุณทำเสร็จแล้ว *

* บันทึก: หากงาน/โปรแกรมที่กำหนดเวลาไว้ไม่เริ่มทำงานในเบื้องหลัง หลังจากใช้ขั้นตอนข้างต้นแล้ว จะมีตัวเลือกอื่นในการเรียกใช้งานที่กำหนดเวลาไว้ในเบื้องหลังโดยใช้บัญชี SYSTEM แต่โปรดทราบว่าการเรียกใช้โปรแกรมในฐานะ SYSTEM นั้นมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เนื่องจากบัญชี SYSTEM มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในเครื่องและข้อมูลของคุณ

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการ (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม) ให้เริ่มโปรแกรมที่จัดกำหนดการไว้เบื้องหลังโดยใช้บัญชี SYSTEM ให้ใช้ขั้นตอน/การตั้งค่าต่อไปนี้ในคุณสมบัติของงานที่กำหนดเวลาไว้:

1. คลิก เปลี่ยนผู้ใช้หรือกลุ่ม

เรียกใช้งานที่กำหนดเวลาไว้ในเบื้องหลังเป็น System

2. ที่ช่อง 'Enter the object name' ให้พิมพ์ ระบบ และคลิก ตกลง.

ภาพ

3. คลิก ตกลง อีกครั้งและคุณทำเสร็จแล้ว!

เรียกใช้โปรแกรมในพื้นหลังโดยใช้ตัวกำหนดเวลางาน

แค่นั้นแหละ! แจ้งให้เราทราบหากคู่มือนี้ช่วยคุณโดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณ กรุณากดไลค์และแชร์คู่มือนี้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น