Apple เปิดตัว A16 Bionic ใหม่ ซึ่งเป็นชิปเคลื่อนที่ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max รุ่นล่าสุด
แอปเปิลมาใหม่ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต A16 Bionic ใหม่ของบริษัท เป็นรุ่นต่อจาก A15 Bionic และมีทรานซิสเตอร์และส่วนประกอบใหม่เพิ่มมากขึ้น เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมในด้านสำคัญๆ เช่น AI ให้ดียิ่งขึ้น A16 Bionic ใหม่เป็นชิปตัวแรกของ Apple ที่ใช้กระบวนการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร และมีทรานซิสเตอร์ถึง 16 พันล้านตัว ซึ่งมากที่สุดใน iPhone ชิปมัลติคอร์ใหม่นี้มาพร้อมกับคอร์ประสิทธิภาพสูง 6 คอร์และคอร์ประสิทธิภาพ 2 คอร์
จากข้อมูลของ Apple คอร์ประสิทธิภาพสูงบน A16 Bionic ใช้พลังงานน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคอร์ประสิทธิภาพของ A15 Bionic แกนประมวลผลประสิทธิภาพยังใช้หนึ่งในสามของพลังของคู่แข่ง ซึ่งบริษัทไม่ได้ระบุชื่อ ทั้งหมดนี้หมายความว่า iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ใหม่จะประหยัดพลังงานมากขึ้น ชิปใหม่นี้ยังมี GPU แบบ 5 คอร์อันทรงพลังพร้อมแบนด์วิธหน่วยความจำเพิ่มขึ้นสูงสุด 50 เปอร์เซ็นต์ และเอ็นจิ้นนิวรอลแบบ 16 คอร์เพื่อเร่งปริมาณงานการเรียนรู้ของเครื่อง
ชิป A16 Bionic ยังมีกลไกการแสดงผลใหม่ที่ขับเคลื่อนจอแสดงผลใหม่ในรุ่น Pro ในปีนี้ ช่วยให้ได้ความสว่างสูงสุดถึง 2,000 nits และช่วยให้สามารถลดอัตราการรีเฟรชลงได้ถึง 1Hz เอ็นจิ้นการแสดงผลใหม่ยังช่วยลดนามแฝงและคุณสมบัติการแสดงผลตลอดเวลาซึ่งเป็นสิ่งใหม่สำหรับ iPhone 14 ซีรีส์
iPhone 14 Pro ใหม่ของ Apple แสดงถึงสิ่งที่ดีที่สุดของบริษัท ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต A16 Bionic ใหม่ และนำเสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น จอภาพเปิดตลอดเวลา ความสว่างสูงสุดที่สูงขึ้น และอื่นๆ
iPhone 14 Pro Max ใหม่มาพร้อมชิปเซ็ต A16 Bionic ใหม่ของ Apple และนำเสนอคุณสมบัติใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น รวมถึงจอภาพเปิดตลอดเวลา คุณสามารถคาดหวังได้ว่าแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานยาวนานด้วยชิปตัวใหม่
ในกรณีที่คุณพลาดการประกาศ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus รุ่นปกติจะยังคงใช้ชิป A15 Bionic ต่อไป พวกเขาจะใช้ชิป A15 รุ่น 5-core ที่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13 Pro เมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นจึงยังค่อนข้างเป็นการอัปเกรดจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13 ปกติ นอกจากชิปเซ็ตใหม่แล้ว iPhone 14 Pro รุ่นใหม่ยังมีคุณสมบัติใหม่อื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงคัตเอาต์รูปทรงเม็ดยาใหม่ อย่างไรก็ตาม ช่องตัดนี้จะปรับแบบไดนามิกเพื่อแสดงข้อมูลต่างๆ เช่น สถานะการชาร์จ การโทร การจับคู่ AirPod และอื่นๆ