YouTube Go พร้อมให้บริการแล้วในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก

YouTube Go ซึ่งเป็น YouTube เวอร์ชันน้ำหนักเบาที่ปรับให้เหมาะกับอุปกรณ์ระดับล่าง มีให้บริการในกว่า 130 ประเทศแล้ว

ในเดือนกันยายน 2559 Google ได้เปิดตัวตัวอย่าง YouTube Go ในอินเดีย, แอป YouTube เวอร์ชันน้ำหนักเบาที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ในตลาดกำลังพัฒนา ตั้งแต่นั้นมา บริษัทได้นำแอปนี้ไปใช้ใน 14 ประเทศเพิ่มเติม รวมถึงอินโดนีเซีย ไนจีเรีย และ ประเทศไทย และในสัปดาห์นี้ได้ประกาศให้ YouTube Go มีให้บริการในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก โลก.

"เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อสร้างแอป YouTube ที่เหมาะกับคุณ พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่ได้รับการออกแบบด้วย ความชอบ แรงบันดาลใจ และความต้องการของคุณ" Jy Akkad ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ YouTube เขียนในบล็อก โพสต์. "เราแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นว่าคุณจะทำอะไรได้บ้างด้วยพลังของ YouTube ที่อยู่ในมือคุณ"

YouTube Go คือจุดสุดยอดของความพยายามของ Google ในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน YouTube บนมือถือในตลาดที่ข้อมูลมีราคาแพงหรือไม่สามารถใช้ได้ในวงกว้าง แอปดังกล่าวทำงานแบบออฟไลน์โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ และให้ผู้ใช้ควบคุมการใช้ข้อมูลมือถือได้แบบรายวิดีโอ ฟีเจอร์หลักได้แก่ ศูนย์กลางวิดีโอที่กำลังมาแรง การแสดงตัวอย่างวิดีโอ และตัวเลือกในการดาวน์โหลดวิดีโอใดๆ แทนการสตรีม

ที่มา: Google

สัปดาห์นี้ Google ได้เพิ่มฟีเจอร์เพิ่มเติมให้กับ YouTube Go ขณะนี้แอปอนุญาตให้คุณดาวน์โหลด สตรีม และแชร์วิดีโอคุณภาพสูง ซึ่งไม่สามารถทำได้จนถึงตอนนี้ (ตัวเลือกคุณภาพสูงมีให้ใช้งานเพิ่มเติมจากความละเอียดคุณภาพขั้นพื้นฐานและมาตรฐาน)

นอกจากนี้ คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาส่วนบุคคลใหม่ๆ ได้ด้วยการปัดนิ้วลงบนหน้าจอหลักของแอป และแอปจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีการอัปโหลดวิดีโอใหม่ไปยังช่องที่คุณกำลังติดตาม ความสามารถในการแบ่งปันได้รับการปรับปรุงเช่นกัน – Google กล่าวว่าทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น คุณลักษณะ "แชร์ใกล้เคียง" ซึ่งช่วยให้คุณส่งวิดีโอไปยังผู้ใช้ YouTube ผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi โดยตรง. และตอนนี้สามารถแชร์วิดีโอหลายรายการพร้อมกันได้

เมื่อเร็วๆ นี้ Google ได้เปิดตัวแอปที่มีแบรนด์ "Go" มากมาย รวมถึง Google Go ไฟล์ไป, และอื่น ๆ. มันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่ม Android Go ของบริษัท -- เราได้เขียนเกี่ยวกับวิธีที่ Android Go ช่วยให้โทรศัพท์รุ่นเก่าใช้ Android 8.1 Oreo, และ โทรศัพท์ Android Go ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้.


ที่มา: Google Blog