Samsung Galaxy A53 5G กับ Samsung Galaxy A73 5G: ซื้ออันไหนดี?

Samsung มีรายชื่อสมาร์ทโฟนระดับกลางจำนวนมากซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Galaxy A-series และหากสิ่งหนึ่งที่เรารู้หลังจากเปรียบเทียบโทรศัพท์บางรุ่นด้วยกันก็คือ พวกเขาทั้งหมดมีแพ็คเกจที่คล้ายกันมากโดยรวม ที่ถูกกล่าวว่า กาแล็กซี่ A73 5G ปัจจุบันเป็นรุ่นท็อปใน A-series 3 รุ่นปี 2022 ใหม่ของบริษัท ใช้พลังงานจากชิปเซ็ตที่แตกต่างจากที่ใช้ในทั้ง Galaxy A53 5G และ Galaxy A33 5G นอกจากนี้ยังมีกล้องที่ดีกว่าอีกด้วย แต่จะเพียงพอที่จะแยกแยะจาก Galaxy A53 5G ได้หรือไม่? นั่นคือสิ่งที่เรามาที่นี่เพื่อค้นหา ลองมาดูการเปรียบเทียบระหว่าง Samsung Galaxy A53 5G กับ Samsung Galaxy A73 5G เพื่อดูว่าแต่ละรุ่นเปรียบเทียบกันอย่างไร

นำทางบทความนี้:

• ข้อมูลจำเพาะ
• การออกแบบและสร้างคุณภาพ
• แสดง
• ฮาร์ดแวร์ภายใน
• กล้อง
• คุณควรซื้ออันไหน?

Samsung Galaxy A53 5G กับ Samsung Galaxy A73 5G: ข้อมูลจำเพาะ

ต่อไปนี้เป็นข้อมูลสรุปโดยย่อของโทรศัพท์แต่ละรุ่นเพื่อดูว่ามีอะไรบ้าง:

ดังที่เราได้เห็นในการเปรียบเทียบอุปกรณ์ Galaxy A-series รุ่นก่อนหน้าบางรุ่น โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นนี้ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก เรากำลังดูชิปเซ็ตต่างๆ ที่ทำงานภายใต้ประทุน และ Galaxy A73 5G ก็มีชุดเลนส์ที่แตกต่างกันเช่นกัน

การออกแบบและสร้างคุณภาพ

เมื่อพูดถึงดีไซน์ก็บอกได้เลยว่าทั้ง Galaxy A53 5G และ Galaxy A73 5G ดูเหมือนตัดมาจากผ้าผืนเดียวกัน เรากำลังดูตัวเลือกขนาดและสีที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ประมาณนั้นแหละ ทั้งคู่ทำจากพลาสติกและมีกระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่ด้านหน้าเพื่อปกป้องจอแสดงผล พวกเขาดูค่อนข้างเหมือนกันทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง พวกเขายังมีปุ่มกล้องแบบเดียวกันที่ทำให้เบาและละลายเข้าไปในส่วนที่เหลือของด้านหลังของโทรศัพท์ เหมือนกับที่ OPPO ทำกับ Find X5 Pro คุณจะต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างแน่นอนในการแยกความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองในขณะที่มองพวกเขาจากด้านหลัง

ในด้านมิติ Galaxy A73 5G จะมีความสูงและกว้างกว่า Galaxy A53 5G เล็กน้อย ดังที่กล่าวไปแล้ว มันยังบางกว่าและเบากว่า Galaxy A53 5G เล็กน้อย ทำให้จับได้ถนัดมือจริงๆ Galaxy A73 5G มีความหนา 7.6 มม. และหนัก 181 กรัม ในขณะที่ Galaxy A53 5G มีความหนา 8.1 มม. และหนัก 189 กรัม ซัมซุงยังจำหน่ายโทรศัพท์ทั้งสองรุ่นในสีที่ต่างกัน คุณสามารถซื้อ Galaxy A73 5G ได้ในสี Awesome Mint, Awesome Grey และ Awesome White ในขณะที่ Galaxy A53 5G มีจำหน่ายในตัวเลือกสี Awesome Black, White, Blue และ Orange

ทั้ง Samsung Galaxy A53 5G และ Galaxy A73 5G ต่างก็อยู่ในแนวเดียวกันในเรื่องของความทนทาน ทั้งสองรุ่นมีระดับ IP67 สำหรับการกันฝุ่นและน้ำ ดังนั้นจึงควรทนต่อการกระเด็นของน้ำและฝุ่นละอองเป็นครั้งคราวได้ แต่สิ่งที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับโทรศัพท์ Galaxy A-series ใหม่ก็คือไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ซึ่งหมายความว่าคุณถูกบังคับให้ใช้อะแดปเตอร์หูฟัง USB Type-C เป็น 3.5 มม. หรือเปลี่ยนไปใช้หูฟังไร้สาย ดังที่เราได้กล่าวไว้ในการเปรียบเทียบ Galaxy A53 5G ก่อนหน้านี้หลายรายการ การไม่มีช่องเสียบหูฟัง เป็นการถอยหลังจากโทรศัพท์ A-series รุ่นเก่าและเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ในช่วงนี้อาจทำได้ นางสาว.

เนื่องจากไม่มีความแตกต่างกันมากนักระหว่างแผนกการออกแบบและการสร้างคุณภาพ เราจึงคิดว่าการตัดสินใจซื้อของคุณขึ้นอยู่กับขนาดโดยรวมของอุปกรณ์เหล่านี้ หากคุณไม่รังเกียจที่จะใช้โทรศัพท์ที่สูงกว่าเล็กน้อย ลองใช้ Galaxy A73 5G คุณจะไม่พลาดอะไรมากมายนอกจากช่องเสียบหูฟังของโทรศัพท์ทั้งสองเครื่อง ดังนั้นโปรดจำไว้เสมอ

แสดง

โทรศัพท์ Galaxy A-series ใหม่ทั้งหมดมาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED Infinity-O ของ Samsung เช่นเดียวกับโทรศัพท์เหล่านี้ แต่เรากำลังดูขนาดทางกายภาพที่แตกต่างกันเล็กน้อย Galaxy A53 5G มีจอแสดงผล FHD ขนาด 6.5 นิ้วที่เล็กกว่าหน้าจอขนาด 6.7 นิ้วของ Galaxy A73 5G แต่นอกเหนือจากนั้น แผงเหล่านี้ก็เป็นพาเนลเดียวกันที่มีความละเอียดสูงสุดถึง 1080 x 2400 พิกเซล Galaxy A53 5G นั้นมีจำนวนพิกเซลต่อนิ้ว (PPI) สูงกว่าเล็กน้อย แต่ในเรื่องความคมชัดก็แทบจะเท่ากัน โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นยังรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ซึ่งแตกต่างจาก Galaxy A33 5G ที่มีความถี่สูงสุดที่ 90Hz

Samsung ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่ด้านหน้าเพื่อปกป้องจอแสดงผลบนโทรศัพท์เหล่านี้ นอกจากนี้เรายังดูจำนวนกรอบรอบๆ จอแสดงผลที่เท่ากันอีกด้วย มันไม่บางเท่ากับโทรศัพท์รุ่นเรือธง แต่ก็ยังบางพอที่จะทำให้มันดูทันสมัย คุณยังได้รับการเจาะรูตรงกลางสำหรับกล้องเซลฟี่ เป็นที่ทราบกันว่า Samsung ใช้จอแสดงผลคุณภาพสูงบนสมาร์ทโฟน ดังนั้นคุณสามารถคาดหวังที่จะเห็นแผงที่ดีบนโทรศัพท์ทั้งสองรุ่นนี้ ดังที่เราได้กล่าวไว้ในของเรา สัมผัสประสบการณ์จริงของ Galaxy A53 5G ชิ้นนี้จอแสดงผลนี้ดูดีเป็นส่วนใหญ่ด้วยสีที่สดใสและคมชัด นอกจากนี้ยังมีเครื่องสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอบนโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ ดังนั้นจึงไม่มีเครื่องสแกนทางกายภาพที่อื่นในร่างกาย

ฮาร์ดแวร์ภายใน

หนึ่งในความแตกต่างที่สำคัญระหว่างโทรศัพท์สองเครื่องในการเปรียบเทียบนี้คือโปรเซสเซอร์ Samsung ใช้ชิปเซ็ต Exynos 1280 ของบริษัทสำหรับ Galaxy A53 5G ในขณะที่ Galaxy A73 5G ใช้ชิป Snapdragon 778G Exynos 1280 มีคอร์ Cortex-A78 ที่เน้นประสิทธิภาพสองตัวที่โอเวอร์คล็อกที่ 2.4GHz และคอร์ Cortex-A55 ประหยัดพลังงานที่ทำงานที่ 2GHz Snapdragon 778G มีคอร์บางส่วน โอเวอร์คล็อกที่ 2.4GHz และอื่น ๆ ที่ 1.8GHz ในกรณีที่คุณสงสัย Snapdragon 778G เป็นชิปที่ทรงพลังกว่าในทั้งสอง ดังนั้นคาดว่า A73 5G จะทำคะแนนได้ดีกว่าในการเปรียบเทียบ การใช้งาน ไม่ได้หมายความว่า Exynos 1280 จะเป็นชิปเซ็ตที่ไม่ดีแต่อย่างใด คุณอาจไม่เห็นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างทั้งสองเมื่อพูดถึงการใช้งานในแต่ละวัน

สิ่งหนึ่งที่เราเห็น Exynos 1280 ทำงานได้ดีกว่า Snapdragon 778G คือประสิทธิภาพการใช้พลังงาน นั่นเป็นเพราะว่าชิป Exynos ที่ขับเคลื่อน Galaxy A53 5G นั้นถูกสร้างขึ้นบนโหนด 5 นาโนเมตร เมื่อเทียบกับโหนด 6 นาโนเมตรของ SD 778G อีกครั้งอาจจะไม่สร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญสำหรับทุกคน แต่ก็ยังคุ้มค่าที่จะจดบันทึก สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องมีแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh บรรจุอยู่ภายใน เราคาดว่า A53 5G จะมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นด้วยชิปที่ประหยัดพลังงานมากกว่าและจอแสดงผลที่เล็กกว่าเล็กน้อย คุณได้รับการสนับสนุนการชาร์จอย่างรวดเร็ว 25W สำหรับโทรศัพท์ทั้งสองเครื่อง แต่ไม่มีทั้งสองเครื่องที่มาพร้อมกับที่ชาร์จภายในกล่อง

รุ่นพื้นฐานของทั้ง Galaxy A53 5G และ Galaxy A73 5G มาพร้อมกับ RAM ขนาด 6GB และที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB คุณยังสามารถเลือกการกำหนดค่า 8GB + 256GB สำหรับ RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม อุปกรณ์ทั้งสองยังรองรับพื้นที่เก็บข้อมูลที่ขยายได้ผ่านการ์ด microSD ด้วยเช่นกัน ถือว่าดี คุณสามารถเพิ่มการ์ด microSD ได้สูงสุด 1TB ลงในโทรศัพท์ทั้งสองเครื่อง แต่โปรดจำไว้ว่าเป็นช่องไฮบริด ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถเพิ่มซิมการ์ดรองได้ หากคุณใช้ช่องสำหรับการ์ด SD

กล้อง

กล้องเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่คุณจะพบความแตกต่างระหว่างโทรศัพท์สองเครื่อง ที่ด้านหลังของ Galaxy A53 5G เป็นระบบกล้องที่ประกอบด้วยกล้องหลัก 64MP, เลนส์มุมกว้างพิเศษ 12MP และเซ็นเซอร์คู่ 5MP สำหรับมาโครและความลึก Galaxy A73 5G ยังมีความสามารถรอบด้านเหมือนกัน แต่เรากำลังดูกล้องหลักที่แตกต่างกันในรูปแบบของเซ็นเซอร์หลัก 108MP f/1.8 พร้อม OIS เนื่องจากเลนส์ที่เหลือเหมือนกัน จึงขึ้นอยู่กับความแตกต่างในเซนเซอร์หลัก เราคาดว่ากล้อง 108MP ของ A73 5G จะถ่ายภาพที่ดูดีกว่า โดยมีรายละเอียดมากขึ้นและสัญญาณรบกวนต่ำ เราคาดว่าเซ็นเซอร์ 108MP นี้จะทำงานได้ดีขึ้นในสภาพแสงน้อย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า Galaxy A53 5G มีปัญหานิดหน่อย แม้จะมี OIS ก็ตาม โทรศัพท์ทั้งสองเครื่องมีกล้อง 32MP ที่ด้านหน้าสำหรับถ่ายเซลฟี่

ที่ด้านหน้าวิดีโอ อุปกรณ์ทั้งสองนี้สามารถบันทึกวิดีโอ 4K @30fps ได้ จึงไม่มีความแตกต่างกัน เราไม่มีโอกาสได้ลองชิมกล้องของ Galaxy A73 5G แต่คุณสามารถดูภาพบางส่วนที่ถ่ายด้วย Galaxy A53 5G ได้ที่ด้านล่างนี้

ตัวอย่างกล้อง Samsung Galaxy A53 5G

Samsung Galaxy A53 5G กับ Samsung Galaxy A73 5G: คุณควรซื้ออันไหน

Samsung Galaxy A53 5G และ Galaxy A73 5G เป็นโทรศัพท์ที่ยอดเยี่ยมในราคา ทั้งสองมีความแตกต่างไม่มากนักในแง่ของการออกแบบและความสวยงาม แต่คุณจะเห็นความเท่าเทียมกันในด้านประสิทธิภาพและแผนกกล้อง บริษัท ยังทำงานได้ดีในด้านซอฟต์แวร์สำหรับโทรศัพท์ระดับกลาง A-series เหล่านี้ทั้งหมด Galaxy A73 5G รัน One UI 4.1 บน Android 12 ตั้งแต่แกะกล่อง และจะได้รับการสนับสนุนซอฟต์แวร์ในระยะเวลาเท่ากันกับ Galaxy A53 5G แต่ก่อนที่เราจะตัดสินขั้นสุดท้าย เป็นที่น่าสังเกตว่า Galaxy A73 5G ไม่มีวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นหากคุณซื้อโทรศัพท์ในอเมริกา คุณจะถูกจำกัดให้ใช้เพียง Galaxy A53 5G เท่านั้น

แต่หากคุณกำลังมองหาซื้อโทรศัพท์เหล่านี้นอกสหรัฐอเมริกาที่มีจำหน่ายหรือหากคุณเพียง อยากรู้ว่าอันไหนดีกว่ากัน เราว่า Galaxy A73 5G มอบประสบการณ์ที่ดีกว่า โดยรวม. ใช่ มันเป็นโทรศัพท์ที่ค่อนข้างสูง แต่ก็มีทั้งบางและเบากว่า A53 5G ซึ่งทำให้จับและใช้งานได้สบายมาก ไม่ต้องพูดถึง SD778G ยังเป็นชิปที่มีประสิทธิภาพดีกว่าโดยรวม แม้ว่าจะไม่ประหยัดพลังงานก็ตาม นอกจากนี้คุณยังจะได้รับระบบกล้องที่ดีกว่าด้วย Galaxy A73 5G ซึ่งยอดเยี่ยมมาก เมื่อพิจารณาทั้งหมดแล้ว พูดได้เลยว่า Galaxy A73 5G มอบประสบการณ์ที่รอบด้านยิ่งขึ้น ดังนั้นหากคุณไม่รังเกียจที่จะใช้จ่ายเพิ่มเล็กน้อยกับสิ่งที่เราเพิ่งพูดถึงไปก็ไม่ต้องมองไปไกลกว่า Galaxy A73 5G

แต่หากคุณไม่สนใจที่จะแลกคุณสมบัติบางอย่างเพื่อให้ได้ราคาที่เอื้อมถึง เราคิดว่า A53 5G คือคำตอบที่เหมาะสม อาจดูมีประสิทธิภาพน้อยกว่าบนกระดาษเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ A73 5G แต่คุณยังคงได้รับความคุ้มค่ามากสำหรับการใช้จ่าย 450 ดอลลาร์ Galaxy A73 5G มีราคาอยู่ที่ ₹47,490 ในอินเดีย ซึ่งแปลโดยประมาณเป็นประมาณ 610 เหรียญสหรัฐในขณะที่เขียนบทความนี้ ตัวอย่างเช่น Galaxy A53 5G ราคาอยู่ที่ ₹40,999 ในอินเดีย ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 530 เหรียญสหรัฐ การสนทนาด้วยสกุลเงินโดยตรงไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการตัดสินมูลค่าของโทรศัพท์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง แต่มันช่วยให้คุณพอทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น

หากคุณตัดสินใจที่จะใช้ Galaxy A53 5G ต่อไป อย่าลืมแวะมาที่คอลเลกชันของเรา ข้อเสนอที่ดีที่สุด สำหรับมัน. คุณสามารถใช้เงินที่คุณประหยัดได้จากข้อตกลงเหล่านั้นเพื่อรับเคสคุณภาพดีจากคอลเลกชันของเรา เคส Galaxy A53 5G ที่ดีที่สุด.

แล้วคุณวางแผนที่จะซื้อโทรศัพท์รุ่นไหน? แจ้งให้เราทราบโดยวางบรรทัดในความคิดเห็นด้านล่าง