Qualcomm เปิดตัวโมเด็ม Snapdragon X75 สำหรับ "ระยะต่อไปของ 5G"

โมเด็ม Qualcomm Snapdragon X75 เปิดตัวแล้ว และพร้อมสำหรับระยะต่อไปของ 5G

MWC อยู่ใกล้แค่เอื้อมและ Qualcomm อยู่ที่นี่เพื่อเริ่มต้นด้วยการประกาศโมเด็ม Snapdragon X75 ใหม่ บริษัทกล่าวว่าชิปเซ็ตนี้พร้อมรองรับ 5G Advanced “เฟสต่อไปของ 5G” ก้าวสำคัญข้างหน้าที่นี่คือการรวมตัวเร่งความเร็วเทนเซอร์ฮาร์ดแวร์เพื่อประสิทธิภาพปัญญาประดิษฐ์ที่ดีขึ้น แม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม โมเด็มนี้ยังโดดเด่นด้วยการใช้พลังงานที่ได้รับการปรับปรุง มีการรวมผู้ให้บริการ 10 รายแรกของโลก และความมุ่งมั่นในความเร็วดาวน์ลิงก์ 10Gbps ทั้งใน Wi-Fi 7 และ 5G

Snapdragon X75 สร้างขึ้นโดยใช้สถาปัตยกรรมโมเด็มต่อเสาอากาศใหม่และอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมมากมายที่บริษัททำขึ้นเป็นครั้งแรก โมดูลเสาอากาศ QTM565 mmWave ใหม่จับคู่กับตัวรับส่งสัญญาณแบบรวม ซึ่งช่วยลดต้นทุน ความซับซ้อนของบอร์ด ขนาดของฮาร์ดแวร์ และการใช้พลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น 5G PowerSave Gen 4 ของ Qualcomm และ RF Efficiency Suite ยังทำงานเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานขึ้นอีกด้วย

"5G Advanced จะนำการเชื่อมต่อไปสู่อีกระดับหนึ่ง โดยเติมพลังให้กับความเป็นจริงใหม่ของ Connected Intelligent Edge"

Durga Malladi รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป โมเด็มเซลลูล่าร์และโครงสร้างพื้นฐานของ Qualcommm กล่าว “ระบบ Snapdragon X75 Modem-RF แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ 5G ระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบของเรา ด้วยนวัตกรรมต่างๆ เช่น AI ที่เร่งด้วยฮาร์ดแวร์ และ การสนับสนุนความสามารถขั้นสูงของ 5G ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยปลดล็อกประสิทธิภาพ 5G ระดับใหม่ทั้งหมดและระยะใหม่ในการสื่อสารเคลื่อนที่”

อย่างไรก็ตาม ก้าวสำคัญไปข้างหน้าด้วยโมเด็ม Snapdragon X75 คือการใช้ AI เพื่อปรับปรุงความเร็ว ความครอบคลุม ความคล่องตัว ความทนทานในการเชื่อมต่อ และความแม่นยำของตำแหน่ง ชุด 5G AI ยังช่วยขับเคลื่อนการจัดการลำแสง mmWave ที่ใช้เซ็นเซอร์ตัวแรก ควบคู่ไปกับ GNSS Location Gen 2 ที่ใช้ AI นอกจากนี้ยังรองรับ 5G/4G Dual Data บนสองซิมการ์ดพร้อมกัน

โมเด็ม Snapdragon X75 คาดว่าจะมาถึงในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 และมีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นโมเด็มใน Snapdragon 8 Gen 3 วอลคอมม์ยังได้ประกาศโมเด็ม Snapdragon X72 ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การนำแอพพลิเคชันบรอดแบนด์บนมือถือไปใช้กระแสหลัก